กระบวนการหลังพิมพ์ คือ กระบวนการทำงานหลังจากที่งานออกจากเครื่องพิมพ์แล้วเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กล่องของเรานั้นมีความโดดเด่น ดึงดูดสายตา และเพิ่มลูกเล่นให้กับกล่อง “งานพิมพ์กล่อง” จึงต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการหลังพิมพ์เป็นพิเศษ เพื่อให้กล่องผลิตออกมาตอบโจทย์และตรงตามความต้องการของลูกค้าและดึงดูดสายตาของผู้บริโภค ทำให้สินค้าของคุณดูโดดเด่นขึ้น
ซึ่งงานตกแต่งหลังพิมพ์หรือกระบวนการหลังพิมพ์นั้นมีความละเอียดอ่อน และมีความหลากหลาย ผู้ที่ต้องการผลิตกล่อง นักออกแบบ ต้องทำความเข้าใจในรายละเอียดและลักษณะการทำงาน เพื่อให้งานกล่องออกมาตรงกับความต้องการ และสามารถนำเอาจุดเด่นของกระบวนการหลังพิมพ์นั้นมาใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
แล้วงานตกแต่งหลังพิมพ์หรือกระบวนการหลังพิมพ์นั้นมีมาอะไรบ้าง…?
เมื่องานที่พิมพ์ออกมาเป็นแผ่นๆ จากเครื่องพิมพ์แล้ว (ภาษาโรงพิมพ์เรียกว่า “แผ่นพิมพ์ หรือ ใบพิมพ์”) ขั้นตอนต่อไปจะเข้าสู่กระบวนการหลังพิมพ์มีทั้งหมด 3 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
1.การตกแต่งผิวชิ้นงาน
เป็นขั้นตอนแรก และขั้นตอนตกแต่งของงานพิมพ์เกือบทุกชนิด เพื่อตกแต่งภาพบนแผ่นพิมพ์ให้มันเงาสวยงาม, เป็นมิติ, ป้องกันการขีดข่วน, ป้องกันความชื้น หรือความคงทนในการใช้งานมีดังนี้
* การเคลือบแบบฟิล์ม (OPP film) เป็นการเคลือบด้วยฟิล์มโปร่งแสงที่มีความเงาหรือด้านก็ได้ และเคลือบทั้งแผ่นพิมพ์ ซึ่งการเคลือบด้วยฟิล์มนี้จะป้องกันการขีดข่วน, ความชื้นได้ดี และทนต่อการฉีกขาดได้อีกด้วย
* การเคลือบวานิช (Varnish Coating) เป็นการเคลือบด้วยน้ำยาที่ให้ความด้านและเงาบนงานพิมพ์ แต่ความเงาจะไม่สูงมาก ซึ่งข้อดีการเคลือบวานิชแบบใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย (Water Based) จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
* การเคลือบยูวี (UV Coating) เป็นการเคลือบด้วยน้ำยาที่ทำแห้งด้วยแสงยูวี ซึ่งจะให้ความเงาสูงมากกว่าแบบวานิช และประหยัดค่าใช้จ่ายต้นทุนราคาเคลือบถูก รวดเร็วกว่าการเคลือบอื่นๆ
* การเคลือบยูวีเฉพาะจุด (Spot UV) เป็นการเคลือบด้วยน้ำยาชนิดเดียวกันกับการเคลือบยูวี ซึ่งเราสามารถกำหนดเฉพาะพื้นที่ต้องการเคลือบได้ เช่น ต้องการเคลือบเฉพาะโลโก้ให้ดูเป็นมิติ หรือเคลือบเป็นลวดลายบนกล่องก็ได้ การเคลือบยูวีเฉพาะจุดจะมีราคาต้นทุนที่สูงเพราะจำเป็นต้องใช้แม่พิมพ์
* การเคลือบแบบฟิล์มโฮโลแกรม (Hologram film) เป็นการเคลือบด้วยฟิล์มที่มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย และเมื่อเวลาเอียงไปมาลวดลายจะปรากฏเป็นสีรุ้ง ทำให้กล่องดูโดดเด่นน่าสนใจเมื่อได้เห็น ซึ่งราคาต้นทุนที่สูงขึ้นอยู่กับลวดลายที่เลือกใช้งาน
* การปั้มนูน/ปั้มลึก (Embossing/Debossing) ลักษณะการปั้มแบบนี้ต้องอาศัยแม่พิมพ์แบบตัวผู้และตัวเมียที่มีลวดลายสูงต่ำไม่เท่ากันในการกดทับบนแผ่นพิมพ์ เพื่อให้กล่องของโลโก้ดูเป็นมิติโดดเด่น ข้อควรระวังของงานปั๊มนูน/ปั๊มลึก ก็คือ ไม่สามารถเก็บรายละเอียดที่เล็กๆได้มากนัก ทางนักออกแบบจึงควรหลีกเลี่ยง การทำจุดปั๊มนูน/ปั๊มลึก ในบริเวณที่เล็กมาก
* การปั้มฟอยล์ (Hot Stamping) ลักษณะการปั้มที่ต้องอาศัยแม่พิมพ์นูนตัวเดียวที่มีลวดลาย โดยใช้ความร้อนจากแม่พิมพ์กดทับแผ่นฟอยล์แล้วลงไปที่แผ่นพิมพ์ ซึ่งการปั้มฟอยล์นี้เราสามารถปั้มฟอยล์เงิน/ทอง, ฟอยล์สี, ฟอยล์ที่มีลวดลาย หรือฟอยล์โฮโลแกรมก็ได้ ข้อควรระวังในการปั๊มฟอยล์ก็คือ ควรหลีกเลี่ยงการออกแบบตำแหน่ง หรือบริเวณที่ต้องการปั๊มฟอยล์ อย่าให้มีขนาดเล็กมาก เพราะบล็อกปั๊มฟอยล์ไม่สามารถเก็บรายละเอียดที่เล็กมากๆได้
* การปั้มไดคัต (Die Cutting) เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนการขึ้นรูปกล่องจำเป็นต้องใช้บล็อกที่มีใบมีดตัด, พับ และเส้นประ โดยใช้แรงกดทับลงบนแผ่นพิมพ์เพื่อแยกส่วนตัวกล่องกันส่วนไม่ต้องการออกจากกัน นักออกแบบต้องกำหนดเส้นตัดและพับในงานออกแบบเพื่อนำไปทำบล็อกได้ การปั้มไดคัตยังสามารถเพิ่มความสวยงามและการใช้งานได้อีกด้วย เช่น การเจาะหน้าต่างให้ผู้บริโภคเห็นสินค้าข้างในได้, เจาะรูสำหรับแขวงสินค้า, ตัวล็อกขวดหัวท้าย หรือกล่องขนมที่มีเส้นประง่ายต่อการฉีกหรือเปิดออก เป็นต้น
2.การขึ้นรูปกล่อง
เป็นขั้นตอนการประกอบขึ้รูปและความชำนาญจากคน เพื่อให้กล่องพร้อมใช้งานก่อนบรรจุลงหีบห่อ
* แปะกาวกล่อง จะเหมาะสำหรับกล่องที่จำเป็นต้องทากาว ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำงานไปพร้อมทั้งประกอบขึ้นรูปกล่องและทากาวไปในตัว เช่น ทากาวกล่องด้านข้าง, ทากาวกล่องฝาหัวท้าย, หรือฐานกล่องสิ้นชัก เป็นต้น
* พับประกอบขึ้นรูป จะเป็นการประกอบและขึ้นรูปกล่องเพื่อพร้อมบรรจุสินค้า ซึ่งขั้นตอนนี้จะเหมาะกล่องที่มีความซับซ้อนมากจำเป็นต้องใช้ความชำนาญ เช่น กล่องแบบฝาครอบมีลิ้น, กล่องบานประตู, กล่องกระเป๋าหิ้วร้อยเชือก และอื่นๆ แต่ขั้นตอนนี้จะทำให้การขนส่งยุ่งยากบรรจุหีบห่อได้จำนวนน้อย จึงจัดส่งเป็นลักษณะแผ่นแล้วขึ้นรูปที่ลูกค้าเลย
3.การบรรจุหีบห่อ
เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการจัดส่งสินค้าจนถึงมือลูกค้าเพื่อพร้อมบรรจุสินค้า จะมีลักษณะเป็นแผ่นจากนั้นทำการคลี่ออกเป็นกล่องแล้วบรรจุสินค้าปิดผนึก ซึ่งจะง่ายต่อการขนส่ง ทางเราจะมีการแนะนำหรือคู่มือวิธีการพับขึ้นรูปกล่องและบรรจุสินค้าที่ถูกต้อง
ต้องการปรึกษาผลิตกล่องหรือฉลากสำหรับธุรกิจของคุณได้ที่ข้างล่างนี้
หรืิอโทร. 02-426-5227, 086-397-7026